Tuesday 9 October 2012

Distance is nothing if you 're loving it!

                                             


ดูเมื่อช่วงนี้ กระแสการออกกำลังกายในโดยการวิ่ง(Jogging)  เริ่มเข้ามาเป็นที่นิยม (สำหรับผม -_-")

            เริ่มทำงานที่สิงคโปร์ เมื่อกลางปี 2010 ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับโรคภูมิแพ้ และหอบพอสมควร ก็แค่ป่วย เดือนละ 3 ครั้ง ลาป่วย/เบิก  MC. จนหมดโควต้า ว่ากันง่าย ๆ   

           
           การกลับบ้านทุก ๆ ครั้ง กลับกลายเป็นการไปหาหมอ เพื่อขอยามากิน มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุด คำถามที่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ คือ "หมอเมื่อไหร่ผมจะหาย ผมกินยาติดต่อกันมาก็หลายเดือนแล้ว" ถามไปด้วยความไม่รู้ หรือจริง ๆ ก็ไม่ได้ค่อยใส่ใจกับชีวิตของเรานั่นแหละ คิดว่าทุกอย่างหายได้ด้วยการรักษาด้วยยา 
           "อยากหายก็ไป ตาย ซะ"
          นั่นแหละ คำตอบตรง ๆ แบบขำ ๆ ที่หมอเหมือนจะสนิท เพราะหาหมอคนเดิมมาพอสมควร ในเมื่อร่างกายไม่แข็งแรง อะไรก็ช้วยเราไม่ได้ แต่ถ้าร่างการแข็งแรง แม้ต่อยา ก็ไม่ต้องมาช้วย 

ตายห่าหละทีนี้ รักสุขภาพตัวเองขึ้นมาทันที -_-"  อายุเลข 3 แล้วยังไม่มีห่าอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังต้องมาโดนหมอด่าแสกหน้า .... " งานนี้ เสียเงินไม่ว่า ขายหน้า ไม่ได้ ฮ้า ๆ "

         เมื่อปลายปี 2010 ผมได้คุยกับผู้หญิงคนนึง เธอเป็นหมอฟัน หลังจากที่เฝ้าแอบมองมาระยะนึง ถึงกับทึ่ง เมื่อปี 2 ปีก่อนเธอ เป็นโรคไข้สมองอักเสพ สาเหตุจากการติดคาดว่ามากจากทางเดินหายใจ จากผู้มารับบริการทำฟัน ใน รพ. ต่างจังหวัด ที่เธอทำงานใช้ทุนอยู่ เธอเป็น 1 ใน 5 ที่ติดเชื้อในตอนนั้น และเป็นคนเดียวที่รอดชีวิต

         "ก็อยากจะไปตีแบต หรืออะไรอย่างอื่นบ้าง แต่อย่างอื่น มันต้องรอ แล้วก็รอ เดิน/วิ่ง ฉันไม่ต้องรอใคร แม้แต่คนที่วิ่งตามมาก็ไม่ต้องรอ แต่คนที่วิ่งนำหน้า รอฉันด้วย ฮ้า ๆ "

          คำพูดของคนที่ร่างกายขาดความรู้สึกไปครึ่งนึง หลังจากรอดจากความตาย 
                                                                 นี่แหละ กำลังใจ

                    
เริ่มวิ่งครั้งแรกรอบบ้านนี่แหละ ระยะทาง 1.1 km. เป้าหมายครั้งแรกคือวิ่งแบบไม่หยุดให้ได้ 3 รอบ 
ผลคือ ไม่ถึงครึ่งรอบ หอบจับ อ้วกจะแตก ถุย..ชีวิต -_-"!!!!



จัดตารางชีวิตใหม่
6.00 PM. กินข้าวเย็น เสร็จแล้วกลับไปทำงานต่อซักพัก 
8.00 PM. เดินทางกลับบ้าน

9.00 PM. เริ่มวิ่ง วิ่งไม่ไหวก็เดิน จนกระทั่ง 10.00 PM.



1 ปีผ่านไป .... ไวเหมือนโกหก ^^



9/10/2012 Singapore bay run 21km Army Half Marathon



มารับเลขประจำตัว

  5.00 AM. ก่อนการปล่อยตัว บนสะพานข้าง ๆ Merlion




...... เวลาผ่านไป 3ชม. 9 นาที .....


 ถึงแล้ววววว

บทสรุปของการวิ่ง หนึ่งปีครึ่ง กับการวิ่งครั้งแรก ที่ 21 km  อันดับที่ 2184 ผู้สมัครรวม 5 รายการ นี้กว่า 70,000 คน


 ขอบคุณ ความคิดถึง ...^^Y



 

Wednesday 9 May 2012

ฝากระป๋อง

ฝากระป๋อง ช่วยผู้พิการ หรือ ส่งเสริมการค้า ....

               เห็นมานานแล้วเหมือนกัน กับโครงการทำขาเทียมด้วยฝากระป๋อง(หูดึงเปิด) ไอ่เราก็เลือดวิศวะ แต่ที่ผ่าน ๆ มาก็เอาหูทวนลมไปเรื่อย ๆ เคยบ้างเหมือนกันที่เอา เศษ อลูมิเนียมก้อน ๆ ไปบริจาคเลย  โดนแฟนแพ่นกระบานไปที o_O"  เลยเสงียม ไปพัก 

                วันนี้เจอโพสของทาง facebook เอากันอีกแล้ว ผมไม่รู้ว่า กิจกรรมนี้ เกิดมาเพื่อ อะไร? หรือ เพื่อสร้างความสามัคคี หรอ ^_^Y ก็เข้าท่านะ 

                  มาลองรู้จักกับเรื่องของวัสดุ กับการทำขาเทียม กันหน่อยแล้วกัน โดยส่วนตัวเรื่องขาเทียมหนะไม่รู้เท่าไหร่ แต่เรื่องของวัสดุ  เข้าใจโดยอาขีพเลย 

จริง ๆ แล้วเรื่องขาเทียบก็คงต้องยกให้กับทางมูลนิธิขาเทียม อ้างอิงจากนี้เลยนะครับ 


                  ส่วนที่เป็นอลูมิเนียม ก็เป็น หนึ่งในไม่กี่ส่วนของขาเทียมซึ่งโดยหลัก ๆ ก็คือเป็นจุดเชื่อมต่อ ข้อต่อ และจุดหมุนต่าง ๆ เพราะด้วยตัวคุณสมบัติ ของสิ่งที่เรียกว่าอลูมิเนียม ที่เขานำมาใช้ คือ น้ำหนักเบา และให้ความแข็งแรง รวมทั้งมีความยืดหยุ่นตัวสูงกว่าเมื่อเทียบกับเหล็ก  

                 โดยส่วนใหญ่ในการผลิตฝาเปิดกระป๋อง นั้นวัสดีที่นิยมเอามาทำกันคือ อลูมิเนียม เกรด 6 หรือ ที่เขาเรียก ๆ ก้นก็ AL6XXX ทั้งหลาย เพราะเมื่อมันกลายเป็นแผ่นขนาดความหนาซัก 0.25 mm. มันสามารถยืดหดตัวได้ มากกว่า 10% ของตัวมันเลย 

                 ถ้าจะเจอกันไปลึก ๆ เลยจากงานที่ผมทำจำพวกงานฉีด Profile เป็นตัน ๆ ก็จะใช้ AL6061-T6 ซึ่งคุณสมบัติเอามาทำงานจำพวกแผ่นบาง ๆ ทั้งหลาย รับแรงอัดได้ดี และน้ำหนักเบา ส่วนราคาก็ไม่ค่อยเบาเท่าไหร่ บ้าน ๆ เราก็เอามาหล่อเป็นประตู โครงมอเตอร์ไซค์ โครงจักยาน และรวมทั้ง ที่ดึงฝากระป๋อง
ข้อมูลเพิ่มเติม http://en.wikipedia.org/wiki/6061_aluminium_alloy 

                ว่ากันมาตั้งนานแล้วยังไงหละ ที่ว่า "ช่วยผู้พิการ หรือ ส่งเสริมการค้า " งั้นมาเริ่มกันเลย กระป๋อง โครงสร้างหลัก คือ ฝา ตัวกระป๋อง ก้นกระป๋อง ทำจาก สังกสี ยกเว้นที่เปิดทำมาจาก อลูมิเนียม (Aluminum) บางคนก็เรียกว่า อลูมินั่ม ^_^ แล้วแต่ละกัน จะนั่ม จะเนียม ก็ -_-"



ดึงมาหนึ่งอัน วัดความหนา ได้ 0.25 mm. กว้าง 15mm ยาว 26mm.  เข้าสูตรเลย  0.25x15x26x0.0027/1000*$7.8 = $0.00205335  มันคือราคาของชิ้นนี้ 
และมีน้ำหนัก  0.0002 kg

0.0027 คือ ค่า Density , 
1000 คือ ทำให้เป็น kg , 
$7.8 คือ ราคาของวัสดุชิ้นนี้ /kg
 
        เหมือนว่ามันขี้มดมากเลยใช่ไหม ? นั่นหมายถึง ถ้าผมบอกว่า 1 ล้านประป๋องช่วยเหลือ คนพิการ
0.0002 x 1,000,000 = 200 kg   (น้ำหนักแค่นี้ ไม่มีที่ไหน ยอมหลอม หรือฉีดให้นอกจะแบบช่วย ๆ กันไป เพราะชั้นต่ำในการหลอม เพื่อฉีดขึ้นโมลคือ 5 ตัน) อีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงคือ อลูมิเนียมที่นำมาแบบนี้ไม่สะอาด บางเจ้ามีสีติดมา และ บางเจ้าเกรดของวัสดุ ไม่เท่ากัน (เปรียบเทียบง่ายๆ ปืนใหญ่ บางละจัน ถึงแตก!!!!)




งั้นลองดูก้อนนี้ .... AL6061-T6 ใหม่กิ๊ก ๆ
100x100x25x0.0027/1000*$7.8 = $5.2
และมีน้ำหนัก  0.625 kg (6 ชีดก่า ๆ ) มากกว่า ฝาดึงกระป๋อง 3125 เท่าตัว






* ความหมายคือ เราต้องใช้ฝากระป๋องมากแค่ไหน ที่จะเอามทำข้อต่อให้ซักข้อนึง
การรีไซเคิล ของวัสดุชนิดนี้ มีอยู่ทั่วไปตามรถซาเล้ง ที่เข้ามารับซื้อตามบ้านอยู่แล้ว นั่นหมายถึง ราคาถูกกว่า $7.8 / kg แน่นอน 


* ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นเรื่องที่ฝังลึกอยู่ในจิตสำนึกของคนไทย แต่ .....


* สุดท้ายที่คงต้องลองไปสังเคราะห์ กันดูแล้วกันนะครับ ว่าอะไร? กันยังไง? เพราะวลาผมไปบริจาค ผมก็ยังคงไปเก็บ ๆ เศษ เล็ก ๆ ใน Shop ไปบริจาค เหมือนที่ผ่านๆ มาถึงแม้นว่า มันจะไม่มีค่าอะไรในสายตาของคนทั่วไปก็ตาม


Chrysanthemum
09/05/2012


Sunday 22 April 2012

Marina Barrage

                    Built across the mouth of the Marina Channel, the Marina Barrage creates Singapore’s 15th reservoir, and the first in the heart of the city. With a catchment area of 10,000 hectares, or one-sixth the size of Singapore, the Marina catchment is the island’s largest and most urbanised catchment. Together with two other new reservoirs, the Marina Reservoir has increased Singapore’s water catchment from half to two-thirds of the country’s land area. The Marina Barrage is the result of former Minister Mentor Lee Kuan Yew’s vision nearly two decades ago when he envisaged damming the mouth of the Marina Channel to create a freshwater reservoir. 
                      
                       3 ข้อหลัก ๆ ของการสร้าง Marina Barrage ก็คือ เป็นเรื่องของการแยกน้ำจืด ออกจากน้ำทะเล ป้องกันน้ำท่วม และ เป็นแหล่งพักผ่อน 

 
 มุมมหาชน

                      เรื่องเริ่มมากจากไปเป็นเห็นภาพจากปฏิทิน เดือน May ซึ่งเป็นภาพของ Barrage ก็เลยลองไปดู ตอนนี้ ยังเปิดแค่ส่วนนี้ ถ้าส่วนที่เหลือเปิดคงสวยน่าดู 
                     การเดินทางสะดวกมาก ๆ ไม่สนหละว่าจะมาจากไหน หา Marina bay MRT. ให้เจอเป็นพอ เดินออกจาก MRT ขึ้นมาก็เจอ ป้ายรถเมย์เลย รถจะมีให้บริการตั้งแต่เช้า จนถึง 23.?? ก่า ๆ ลืมแระ ^^Y ฟรีครับ เป็นรถวน จาก Barrage ไป MRT ทุก 15-20 นาที  ไม่ต้องกลัวหลงครับ เพราะ สุดสาย ^^Y

 
                       เขื่อนยาว 350 เมตร เป็นอะไรที่คนที่นี่ให้ความภูมิใจเอาเสียมาก ๆ (บ้านเรายาวเป็นกิโล ๆ ยังไท่เคยไปเลย) สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ คนที่นี่คือ สร้างอะไร แม่งโค้งไปหมด ทุกที่ต้องมีไฟประด้บ นั่นคือ สิ่งสำคัญเพื่อให้คนเข้าไปเที่ยว ไปชมกันได้
นอกเรื่องนิดนึง ^^Y น่ารักดี แต่เราเจอกันช้าไป 55


  เป็นระเบียบ สะอาดและ เรียบร้อย ^^Y


                วิวนี้มหาชน เช่นเคย มองเห็นชิงชาสวรรค์ และ เรือเหาะ อย่างชัดเจน ^^Y (เรียกเขาซะเสีย จะโดนฟ้องไหมเนี่ย -_-" ) ถ่ายด้วย Lens ระยะ18mm. ถ้ามี compact ไปจะดีมากเพราะจะได้เก็บแบบยาวทั้งหมด อันนี้ ซ้ายขวาเก็บไม่หมด


             แสงยามโพ้เพ้ ^_^Y เขาเรียกกันงั้น แปลว่าอะไร อะ??? ส่วนที่กำลังก่อสร้างอยู่ก็น่าสนใจเหมือนกัน หวังว่าคงอยู่จนได้เห็นนะ ^^Y จะมาเก็บภาพอีก โดบปกติ จะมีการแล่นเรือใบ แถวๆ นี้แต่วันนี้ฝนตก เลยอด


        ตาม Concept โค้งเข้าไว้ แล้วสวยเอง 555
 น้อง ๆ นักเรียนเขามาซ้อมกัน ... น้องพี่ชอบน้องมากเลย (แต่อย่าหันมานะ 55)


Chrysanthemum
22 Apr 2012

Sunday 8 April 2012

Raffles Place


                                 โดยปกติ คนที่มาเที่ยวสิงคโปร์ แล้วจะไปถ่ายรูป กับเจ้า Merlion ส่วนใหญ่ถ้าโดยสาร ด้วย MRT. สถานีนี้ก็ถือว่าใกล้ทีสุด แต่วันนี้เราลองเดินมาอีกทางหนึ่งซึ่งเป็นย่านของ ฝรั่ง ๆ เขามาเดินเที่ยวกัน ^_^Y

                        Cavenagh Bridge  หรือ สะพาน คาเวนาห์  เขาว่ากันว่าเก่าแก่มาก ๆ สร้างตั้งแต่ 1868 จริง ๆ มันก็เขียนเอาไว้นั่นแหละ ฮ้า ๆ เดาง่าย ๆเลยว่า สะพานนี้ไม่ได้สร้างจาก จิ๋งโปร์ เพราะ ไม่ค่อยมีรูปทางที่โค้ง ๆ ซึ่งก็จริง เพราะมันสร้างจาก สก็อตแลนด์  แต่นำมาประกอบที่สิงคโปร์





                        โรงแรม ฟูลเลอร์ตัน ซึ่งถือว่าเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่หรูหรามากในสิงคโปร์ สร้างตามสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิก  โดยที่นี่ใช้เป็นที่ทำการไปรษณีย์มาก่อน  ก่อนที่จะมาเปลี่ยนเป็นโรงแรมในปี  2000 และรอบๆ บริเวณโรงแรม ยังมี รูปหล่อทองแดง  ขนาดเท่าตัวคนจริงๆ  อยู่โดยรอบ  อย่างเช่น รูปปั้นเด็ก กระโดดน้ำเล่น และ รูปเป็ด ....เอ้ย นก ครับนก

 รูปป้นแรงงาน
 อ๊ะ เด็กโดดน้ำ



           อันนี้เราข้ามไป Asian Civilisations Museum พิพิธภัณฑ์อารยธรรมเอเชีย เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ของอินเดีย จีน เอเชียอาคเนย์ และชาวอิสลามโดยนำเสนอแบบ อินเตอร์แอ็คทีฟ เพราะเย็นมากแล้วเข้าไปไม่คุ้ม ^_^"



โซนนี้เรียกได้ว่า เป็นโซนของเขาเลยก็ว่าได้ ท่าน 'ฝรั่งหน้าหม้อ' เอ้ย... กราบขออภัย -_-"  'ฝรั่งอังมอ' ร้านต่าง ๆ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ฝรั่ง ๆ ยุโรป ๆ เดินเข้าไปนี่เราเตี้ยไปเลย ^_^


             อันนี้เป็นอุโมงทางลอดใต้ถนน ที่จะข้ามไปทาง Esplanade เสียงข้างในจะก้อง ๆ บางครั้งจะมีคนมาเล่นดนตรี วันนี้ โชคไม่ดี ไม่มีอะไรเลย -_-"


                    
Chrysanthemum
8 Apr 2012














Saturday 17 March 2012

I light Marina bay 2012

I light Marina bay 2012

Festival Sustainability

A key objective of i Light Marina Bay 2012 is to advocate environmentally-responsible behaviour for a sustainable future, and promote the Bay as a culturally vibrant and sustainable urban waterfront precinct.

From encouraging artists to use recyclable materials as well as adopt energy-efficient lighting technology and renewable energy sources in the creation of their light art installations, to working with event and programme partners to manage resources and minimise waste, sustainability is promoted through all aspects of the festival.

Light of the Merlion
 OCUBO  Portugal
OCUBO is an art and multimedia studio dedicated to light projects for more than ten years. Nuno Maya and Carole Purnelle, the founding artists and directors of the studio, have been presenting their light, multimedia and interactive artworks around the globe. 

 5QU1D
Ryf Zaini, Zulkifle Mahmod Singapore
An engineering graduate from Temasek Polytechnic, Ryf Zaini’s interest in the arts led him to LASALLE College of the Arts, where he completed a diploma in interactive media and graduated with first class honours in media arts. Ryf has since participated in several exhibitions for which he has created hybrids of technologically-informed art.


Bibigloo  
BIBI France
 Since 1992, through the use of everyday objects made from materials such as plastic, BIBI’s art pieces explore man’s relationship to the environment, as well as the capacity to confront the contradictions with regard to waste production. In BIBI’s own words, “Light is my favorite medium to give life to my installations.”

 Atter Light
Storybox  New Zealand
 Storybox is an award-winning New Zealand production, interactive and installation design company. Their process combines many influences from industrial design, video art, documentary film, live cinema, performing arts and interactive digital art.

 Urban Makyoh
 Light Collective United Kingdom
 Light Collective was founded by Martin Lupton and Sharon Stammers. Lupton started his career in lighting as a researcher at the Liverpool School of Architecture and Environmental Engineering, UK, before progressing into architectural lighting design. Stammers began working in stage lighting as a production electrician and earned a Master of Science in light and lighting from the Bartlett, University College London, UK.


 Sweet Home
Aleksandra Stratimirovic Sweden
 After graduating from the Faculty of Applied Arts and Design in Belgrade, Serbia, Aleksandra Stratimirovic completed her studies in specialised lighting design at the University of Fine Arts and Crafts in Stockholm (Konstfack) and the Royal Institute of Technology (KTH) in Stockholm, Sweden. The Yugoslavia-born artist lives in Sweden.

 Garden of light
Hexogon Solution Singapore 
Hexogon Solution was founded in 1997 by Adrian Goh. It has staged several large-scale projections on giant structures, buildings and even a commercial airliner. Goh and his team of design and production staff are experts in the field of video mapping projection.

FLOW
 Olivia Lee Singapore
Singaporean industrial designer Olivia Lee graduated from the UK’s Central Saint Martin’s College of Art and Design in 2008 with first class honours. She has since established herself on the international scene, working in multiple areas of design on both personal projects as well as a range of commercial design work for brands such as Proctor & Gamble, Tefal and Swarovski. 

 
 Bio Shell
 Shinya Okuda  Japan/Singapore 
Shinya Okuda is a registered architect in the Netherlands and Japan and has practiced in Switzerland, Hong Kong, Japan with Herzog & de Meuron and Shigeru Ban. He is currently an Assistant Professor at the National University of Singapore.

 Receptacle
Marine Ky France/Cambodia 
Marine Ky is an artist who uses textile-based installation as a medium to share experiences of peace with communities across the world. Ky left her homeland of Cambodia in 1970 after Lol Nol’s coup d’état. She returned 30 years later after living in Macau, Paris and Australia. She currently splits her time between Paris, Phnom Penh and Sydney’s Blue Mountains. 


 The Gate
Li Hui China
Li Hui graduated from the China Central Academy of Fine Arts, Beijing in 2003. He currently lives and works in Beijing. As a conceptual artist, he works in diverse media, including transparent neon-lit acrylic sculptures and laser beams.


 Key Frames
Groupe LAPS France 
Groupe LAPS is a group of six artists and designers. With their combined expertise and technical know-how in areas such as art, design and lighting, Group LAPS develops film, light installations and multimedia applications. 

Gap the Mind
 Be Takerng Pattanopas Thailand
Be Takerng Pattanopas is a Bangkok-based artist who works primarily in sculptures and installations. He is currently an assistant professor of art and design at Chulalongkorn University and Bangkok University in Thailand. 

Chrysanthemum
March 17,2012 

Sunday 11 March 2012

Dairy Farm Nature Park

Dairy Farm Nature Park
         เนื่องด้วย สหาย(เจ้าโนบุ๊)ได้ไปเมื่อวานและ 'หลง' อือ... ไม่รู้ว่าหลงอะไรนะครับ แต่อืมม.... ม๊ะตรูไปบ้าง หลังจากที่ช้วยท่านเจ้าของบ้านประกอบเตียง (ชื่อจาก IKEA) สองชั้น ของเด็ก ๆ ในช่วงเช้า อิอิ คันเท้าแระไปดีกว่า .... 6(^_^)

เดินทางจาก บ้านโดย MRT มาลงที่ Choa chu kang ต่อด้วย LRT ลงที่ BP6 Bukit 1,000จัง (Bukit Pan jang) เสร็จแล้วก็เดินมาต่อบัส มาลงที่ Dairy Farm Road เลยจากนั้น

 โอ่งานเข้า.... 


 ถึงจนได้  Dairy Farm แต่เปียกหมดเลย ^^"

 ถ่ายแผนที่เก็บไว้ก่อน เพราะแม้แต่ google ก็ช่วยท่านไม่ได้ ในที่นี้และ เวลานี้ 
ไม่รอช้า ความห้าวไม่เคยออกจากตัวเรา... 
 
มีทางสำหรับปั่นด้วยนะครับบ
แต่เราไม่ไป ^^"

ชื่อนี้คุ่น ๆ นะครับ
ทางเข้าจากสภาพบ้าไปแล้ว ... ^^ เออ ข้าเจ้านี่แหละ ^^Y
 สภาพทาง ถามตัวเองทุกครั้งเหมือนกัน ว่ามาทำไม แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ 

 ได้ยินแต่เสียรองเท้า ที่เหยียบดิน 

 ลมหายใจที่แรง และหัวใจที่เต้นเร็ว และแรง


 
จากความสูง สูงกว่าฝ้่งทางโน้นที่ไปมาและยาวเลย 



ให้เก่งแค่ไหน รวยเเค่ไหน สุดท้ายวันนึ่งเราก็คงต้องกลับไปอยู่กับสิ่งเหล่านี้ ก็หวังแค่เพียงว่าซักวัน ก่อนที่เราจะไป คงมีใครซักคน(หลายๆ คนก็ได้นะ ^^ V )มาเดินเป็นเพื่อนกันไป....

Chrysanthemum
March 11,2012